1) งบกำไรขาดทุน (Profit and Loss Statement) หมายถึง งบที่แสดงผลการดำเนินงานของกิจการว่ามีผลกำไร หรือ ขาดทุนสุทธิเท่าใดประกอบด้วยรายละเอียดของรายได้และค่าใช้จ่าย |
2) งบดุล (Balance Sheet) หมายถึง งบที่แสดงฐานะทางการเงินของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งประกอบด้วยรายละเอียด ของสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ(ทุน) |
รูปแบบของงบกำไรขาดทุนและงบดุล |
1) รูปแบบของงบกำไรขาดทุน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ (1) แบบรายงาน (Report Form) รายการแบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่หนึ่ง เป็นส่วนของรายได้ ตอนที่สองเป็นส่วนของค่าใช้จ่าย และตอนที่สามคือกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ (2) แบบบัญชี (Account Form) เป็นแบบที่แสดงรายการแบบตัว T ในภาษาอังกฤษ โดยแบ่งออกเป็นสองด้าน คือ ด้านซ้ายมือ (เดบิต) บันทึกรายการเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ด้านขวามือ (เครดิต) บันทึกรายการเกี่ยวกับรายได้
|
2) รูปแบบของงบดุล คือ แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ (1) แบบรายงาน (Report Form) จะแสดงรายการเรียงกันตามลำดับของหมวดบัญชี คือ หมวดสินทรัพย์ หมวดหนี้สิน และส่วนของเจ้าของ ผลรวมของหมวดสินทรัพย์จะต้องเท่ากับผลรวมของหมวดหนี้สิน และส่วนของเจ้าของ (2) แบบบัญชี (Account form) จะแสดงรายการบัญชีหมวดสินทรัพย์ทางด้านซ้ายมือ (เดบิต) หนี้สินและส่วนของเจ้าของ จะแสดงรายการด้านขวามือ (เครดิต) และผลรวมด้าน เดบิต จะต้องเท่ากับด้านเครดิต
|
การจัดทำงบกำไรขาดทุนแบบรายงานและแบบบัญชี |
1. การทำงบกำไรขาดทุนแบบรายงาน 1. ส่วนหัวงบ มี 3 บรรทัด คือ บรรทัดที่ 1 เขียน “ชื่อกิจการ” บรรทัดที่ 2 เขียนคำว่า “งบกำไรขาดทุน” บรรทัดที่ 3 เขียนระยะเวลาที่จัดทำงบกำไรขาดทุน 2. เขียนคำว่า “รายได้” ทางด้านซ้ายมือแล้วนำบัญชีรายได้หลักและรายได้อื่น ๆ ของกิจการมาลงรายการโดยเขียน เยื้องไปทางขวามือเล็กน้อย และเขียนจำนวนเงินทางขวามือแล้วรวมยอดรายได้ทั้งหมด 3. เขียนคำว่า “ค่าใช้จ่าย” ทางซ้ายมือให้ตรงกับรายได้ และนำบัญชีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดเขียนเยื้องไปทาง ขวามือเล็กน้อย พร้อมเขียนจำนวนเงินทางขวามือแล้วรวมยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 4. หาผลต่างระหว่างยอดรวมรายได้ และยอดรวมค่าใช้จ่าย ถ้ายอดรวมรายได้มากกว่ายอดรวมค่าใช้จ่าย ผลต่างคือ กำไรสุทธิ ถ้ายอดรวมค่าใช้จ่ายมากกว่ายอดรวมรายได้ผลต่างคือขาดทุนสุทธิ
2. การทำงบกำไรขาดทุนแบบบัญชี 1. เขียนส่วนหัวงบ 3 บรรทัด 2. ลงรายการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทางด้านซ้ายมือเรียงลงมาตามลำดับ และลงรายการเกี่ยวกับรายได้ทางด้านขวามือ เรียงลงมาตามลำดับ 3. รวมยอดรายได้ เขียนกำไรสุทธิทางด้านเดบิต ส่วนขาดทุนสุทธิเขียนทางด้านเครดิต
งบดุล |
การทำงบดุลแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้ |
1. การจัดทำงบดุลแบบรายงาน 1. ส่วนหัวงบ 3 บรรทัด บรรทัดแรก เขียน “ ชื่อกิจการ ” บรรทัดที่สอง เขียนกำไรขาดทุนในและบรรทัดที่สามเขียนระยะเวลาบัญชี 2. เขียนคำว่า “ สินทรัพย์ ” ไว้กึ่งกลางหน้ากระดาษ แล้วนำบัญชีหมวดทรัพย์สินมาลงรายการทางด้านซ้ายมือ และ เขียนจำนวนเงินทางขวามือ 3. เขียนคำว่า “ หนี้สินและส่วนของเจ้าของ ” กลางหน้ากระดาษ แล้วนำบัญชีหมวดหนี้สินมาลงรายการทางซ้ายมือ และเขียนจำนวนเงินทางขวามือแล้วรวมยอดหนี้สิน สุดท้ายรวมยอดหนี้สินและส่วนของเจ้าของ ซึ่งต้องเท่ากับยอดรวมของสินทรัพย์ ทั้งหมด |
2. การจัดทำงบดุลแบบบัญชี 1. ส่วนหัวเขียนเหมือนกับแบบรายงาน 2. แบ่งสินทรัพย์ไว้ทางซ้ายมือ หนี้สินและส่วนของเจ้าของไว้ทางขวามือ 3. ยอดรวมของสินทรัพย์ทางซ้ายมือ จะต้องเท่ากับยอดรวมรวมหนี้สินและส่วนของเจ้าของทางขวามือ
ประโยชน์ของการทำงบการเงิน 1. เป็นหลักฐานในการบันทึกรายการเปิดบัญชี เมื่อเริ่มรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ 2. เป็นเอกสารรายงานต่อทางราชการ และยังเป็นเอกสารใช้ประกอบการกู้ยืมเงินจากสถาบัน การเงินได้ 3. ทำให้ทราบผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกิจการค้าได้
ที่มา http://www.pw.ac.th/emedia/media/tech/accounting1/lesson8.php
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น